วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2563

ชายต่างชาติ คลั่ง จับเมียโยนตึก แล้วยืนสวดมนต์

ชายต่างชาติ คลั่ง จับเมียโยนตึกชั้น 8 เลือดท่วม! แล้วยืนสวดมนต์ริมระเบียง 






ทำไปได้! ชายต่างชาติ อาการคลุ้มคลั่ง นั่งสวดมนต์อยู่ที่ระเบียง หลังเจ้าตัวจับภรรยาโยนลงมาจากชั้น 8 ตกลงมาชั้น 7 ที่คอนโดมิเนียมริมทะเล อ.บ้านฉาง จังหวัดระยอง ทราบชื่อคือ นายแมชแชล อายุ 46 ปี เป็นชาวอังกฤษ และผู้บาดเจ็บชื่อ นางสุกานดา อายุ56 ปี อยู่ในสภาพเลือดท่วม สะโพกหัก ขาหัก จึงนำตัวส่งโรงพยาบาล



ส่วนนายแมชแชลอยู่ในสภาพคลุ้มคลั่ง นั่งสวดมนต์อยู่บริเวณระเบียงของชั้น 8 ไม่พูดไม่จากับใคร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สอบถามผู้จัดการคอนโดมิเนียมดังกล่าวเล่าว่า ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน ทะเลาะกันตั้งแต่ช่วงเช้า ก่อนเกิดเหตุโยนภรรยาตนเองลงมาจากชั้น 8 


เช็คดวงรายวันได้ที่ >> https://horo02thailand.blogspot.com/

วันจันทร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2563

ฝันว่าเดินเข้าโบสถ์ หรือฝันว่าได้ไปนั่งในโบสถ์

ทำนายฝัน ฝันว่าเดินเข้าโบสถ์ หรือฝันว่าได้ไปนั่งในโบสถ์ บอกอะไรบ้าง?




ทำนายความฝัน ฝันว่าเดินเข้าโบสถ์ หรือว่าฝันว่าได้ขึ้นไปนั่งบนโบสถ์ หมายความว่าอะไร บอกอะไรคุณได้บ้าง ดีหรือไม่ดี วันนี้เรามีคำตอบให้คุณแล้ว ทั้งการงาน การเงิน ความรัก พร้มทั้งเลขเด็ด
ผลคำทำนายฝันเห็นเดินเข้าในโบสถ์
ต้องระวังเป็นพิเศษกับเรื่องสุขภาพของผู้ใหญ่ที่จะไม่ค่อยปกติและเป็นเหตุ ให้ท่านกังวลใจ ทำดีจะได้ผลดีกลับคืนโดยเร็ว ใครที่ประสงค์ร้ายกับคุณก็ได้ผลร้ายให้คุณเห็น คุณจะมีลาภจากความเสน่หา
ความรัก
คนที่มีกิ๊กจงระวังไว้ เพราะอีกไม่นานงานจะเข้าคุณ งานนี้อาจถึงเลิกลากันไปเลยก็ได้ คู่รักที่คบกันมานาน ถึงเวลาแล้วที่จะได้ประกาศฤกษ์ดีเสียที ถ้าไม่ระวังตัว ระวังใจของตัวคุณเองให้ดีๆ จิตใจของคุณเองนั่นแหละที่จะทำให้คุณคิดเลยเถิดไปไกล
ดวงการเงิน การงาน
คุณจะต้องวางแผนควบคุมเรื่องเงินรายรับรายจ่ายให้รอบคอบ ช่วงนี้ประหยัดได้ก็จะดี ทุนรอนที่สะสมไว้จะถูกนำออกมาใช้เพื่อลงทุนการค้าบางอย่างแต่จะประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี ภาระรับผิดชอบในหน้าที่การงานทำให้จำต้องสละแผนการพักผ่อนกระทันหัน

วันศุกร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563

น้องฉัตรยัน!! ซุปตาร์ตัวแม่ อั้ม พัชราภา ผู้ปิดทองหลังพระ

น้องฉัตรยัน!! ซุปตาร์ตัวแม่ อั้ม พัชราภา ผู้ปิดทองหลังพระอีกเสียงถึงความใจดีของอั้ม ที่ชอบช่วยเหลือคนอื่นมาตลอด แต่ไม่เคยได้บอกใคร




น้องฉัตรยัน!! ซุปตาร์ตัวแม่ อั้ม พัชราภา ผู้ปิดทองหลังพระ เรียกว่าอยู่เฉยๆ ก็ ถูกชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์ถามว่าทำไมไม่ทำบุญช่วยเหลือโรงพยาบาที่ขาดแคลน และประโยคที่บอกว่าอย่าเป็นคนสวยที่ใจดำเลยนะคะ จนอั้มเข้ามาตอบกลับว่าอั้มทำแล้วหลายที่ ซึ่งเรื่องนี้คนที่รู้ดีมากที่สุดก็เป็นเพื่อนและคนใกล้ตัวอั้มนั่นเอง
น้องฉัตร ช่างแต่งหน้าชื่อดังที่มีโอกาสแต่งหน้าให้อั้ม ที่ออกมายืนยันอีกเสียงถึงความใจดีของอั้ม ที่ชอบช่วยเหลือคนอื่นมาตลอด แต่ไม่เคยได้บอกใคร ยังได้เล่าถึงเรื่องที่อั้มเป็นผู้ปิดทองหลังพระจริงๆ ว่า

“น้องฉัตรเป็นคนนึงที่ได้มีโอกาสอยู่ และใกล้ชิดกับพี่อั้ม พัชราภา @aum_patchrapa พี่อั้มเป็นคนที่จิตใจดี และทำบุญช่วยเหลือคนอื่นตลอด แต่ไม่เคยต้องบอกหรือประกาศจริงๆ ขอพื้นที่ตรงนี้เป็นกระบอกเสียงและเล่าเรื่องราวที่ได้พบเจอกับตัวน้องฉัตรเองนะครับ มีอยู่วันนึงน้องฉัตรมีโอกาสไปแต่งหน้าพี่อั้มที่บ้าน ในวันนั้นพี่อั้มได้พูดถึงผู้หญิงท่านนึงที่ป่วยเป็นมะเร็ง และเล่าเรื่องราวของผู้หญิงท่านนั้นให้น้องฉัตรฟัง และได้ชวนร่วมทำบุญด้วยกัน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล เป็นไปตามภาพที่น้องฉัตรลงครับ

โอกาสที่สอง น้องฉัตรได้ไปแต่งหน้าคุณแม่พี่อั้มที่บ้าน เพื่อคุณแม่ไปงานของโรงเรียนเก่า รู้มั้ยครับว่าไปทำอะไร ไปบริจาคเงิน 300,000 บาทให้กับโรงเรียนแห่งนั้น แต่พี่อั้มขอว่าไม่ต้องบอกใครนะคะ ซึ่งจริงๆน้องฉัตรอยากที่จะพิมพ์ลงในโซเชี่ยลประกาศให้ใครหลายๆท่านได้รับรู้ว่า คุณอั้ม พัชราภา ดาราซุปเปอร์สตาร์เมืองไทยของเรา มีจิตใจที่งดงาม และนำเงินมาแบ่งปันช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ
รวมไปถึงคุณแม่พี่อั้ม ที่ต้องนำอาหารไปเลี้ยงหมาแมว จรจัดทุกๆวัน ทั้งที่ตัวเองจะรู้สึกไม่สบายก็ต้องไปเพราะกลัวว่าหมาแมวเหล่านั้นไม่มีอะไรกิน สำหรับน้องฉัตรวันนี้ น้องฉัตรต้องขออนุญาตออกมาเป็นอีกหนึ่งเสียงที่จะยืนยันว่าคุณอั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ เป็นผู้ปิดทองหลังพระจริงๆครับ”

ซึ่งได้โพสต์คนก็เข้ามาชื่นชมกันมากมาย รวมถึงนักร้องอย่าง ไอซ์ ศรัณยู ที่เข้ามาคอมเมนต์ยืนยันด้วยอีกเสียงว่า “รักพี่อั้มครับ เข้ามายืนยันอีกเสียง ว่าพี่อั้ม ช่วยเหลือคนมากมาย จริงๆ รวมทั้งตัวไอซ์ ด้วยในหลายครั้ง เวลาพี่อั้มช่วย ช่วยด้วยใจจริงๆ และ ช่วยเต็มที่จริงๆ รักจนวันนี้”

วันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2563

เจมี่ คาร์ราเกอร์ เผย แข้งลิเวอร์พูลบางคนไม่บริจาคช่วยงานแพทย์

เจมี่ คาร์ราเกอร์ เผย แข้งลิเวอร์พูลบางคนไม่บริจาคช่วยงานแพทย์




เจมี่ คาร์ราเกอร์ ตำนานกองหลังและอดีตนักเตะ ลิเวอร์พูล ออกมาเผยว่ามีนักเตะบางคนที่ไม่บริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือสำนักงานสาธารณสุขแห่งชาติ โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นนักเตะต่างชาติอาจเป็นเพราะความเห็นที่ไม่ตรงกัน
อดีตยอดกองหลังของ “หงส์แดง” สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดเผยว่าสมัยก่อนมีนักเตะ “เดอะคอปป์” บางคนที่ปฏิเสธจะบริจาคเงินช่วยเหลือสำนักงานสาธารณสุขแห่งชาติ (เอ็นเอชเอส)
จากการวิกฤตในการระบาดอย่างรุนแรงของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงนี้ ทำให้ทีมแพทย์ต้องเจองานหนักตามไปด้วย ซึ่งมันก็ทำให้มีบางคนที่เรียกร้องให้บรรดานักเตะในระดับ พรีเมียร์ลีก ช่วยเหลือสังคมด้วยการบริจาคเงินให้สำนักงานสาธารณสุขแห่งชาติ จากการที่พวกเขาได้ค่าเหนื่อยจากต้นสังกัดเยอะสุดๆ
ตำนานกองหลังเลือดผู้ดีของหงส์แดงเผยว่า “ย้อนกลับไปประมาณ 10-15 ปีก่อน เอ็นเอชเอส บอกว่าพยาบาลในประเทศไม่ได้รับเงินค่าจ้างมากพอ และตอนนั้นนักเตะหลายคนในระดับ พรีเมียร์ลีก ก็บริจาคค่าแรงต่อ 1 วันให้กับพยาบาลของ เอ็นเอชเอส”
เหตุการณ์ในครั้งนั้นมีแค่ผมกับ เจอร์ราร์ด ได้อยู่ในห้องแต่งตัวกับนักเตะอีกราว 20 คน และบางคนก็ปฏิเสธที่จะบริจาคเงิน น่าจะมีสัก 4-5 คน ผมมั่นใจว่าทีมอื่นๆ ทุกทีมก็น่าจะมีนักเตะที่มีความเห็นไม่ตรงกันแบบนี้เหมือนกัน หลายคนที่ไม่เห็นด้วยกับการบริจาคเป็นนักเตะต่างชาติ พวกเขาไม่เข้าใจว่าพวกเขาจะต้องจ่ายเงินไปเพื่ออะไร
นักเตะเหล่านั้นต่างสงสัยว่าทำไมต้องบริจาคเงินให้พยาบาลด้วย ทำไมไม่บริจาคเงินให้ส่วนอื่น บางคนมีองค์กรการกุศลของตัวเองอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มันเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่านั้นเยอะ และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมพูดตั้งแต่ช่วงแรกๆ แล้วว่าคุณไม่มีทางทำให้ทุกทีมใน พรีเมียร์ลีก เห็นตรงกันได้หรอก สถานการณ์ของแต่ละคนมันก็แตกต่างกันออกไป
“เมื่อเวลาผ่านไปแน่นอนว่าสมัยก่อนมันต่างจากตอนนี้ เพราะแต่ก่อนมันไม่มีประเด็นเรื่องเงินมากเหมือนอย่างในปัจจุบัน แต่พวกเราส่วนใหญ่ก็ทำให้มันผ่านพ้นมาได้ด้วยดี และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมคิดว่ามัน ต้องเกิดขึ้น จริงอยู่ว่าทุกวันนี้เรื่องเงินทุนมันมีเอี่ยวมากขึ่น และมีการให้ค่าเหนื่อยเยอะกว่าแต่ก่อน แต่มันก็ต้องกลับไปขึ้นอยู่กับสโมสรอยู่ดี”

วันอังคารที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2563

โรนัลดินโญ่ อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติบราซิล ออกจากคุกแล้ว

วางเงิน 50 ล้าน! ศาลอนุญาตให้ประกันตัว “โรนัลดินโญ่” อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติบราซิล ออกจากคุกแล้ว


หลังจากที่ต้องใช้เวลาในคุกนานเป็นเวลา 32 วัน ล่าสุด โรนัลดินโญ่ อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติบราซิล และ โรแบร์โต้ พี่ชายของเขาก็ได้รับการปล่อยตัวออกจากคุก อากรูปาซิออน เอสเปเซียลิซาด้า เป็นครั้งแรกหลังศาลอนุญาตให้ประกันตัว
สำหรับทั้งคู่ถูกจับฐานใช้พาสปอร์ตปลอมในการเดินทางเข้าประเทศเมื่อต้นเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา หลังได้รับเชิญให้เดินทางมายังประเทศปารากวัยเพื่อร่วมงานการกุศล ซึ่งพาสปอร์ตปลอมดังกล่าวสามารถผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองมาได้แบบไม่มีปัญหา แต่อีกไม่กี่ชั่วโมงจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็บุกเข้าจับตัวพวกเขาในห้องของโรงแรม
ด้าน อดอลโฟ่ มาริน ทนายส่วนตัวของดาวเตะแซมบ้า พยายามสู้ความก่อนวางเงินประกัน 1.3 ล้านปอนด์ (ประมาณ 50 ล้านบาท) โดยอ้างว่า ในพาสปอร์ตเล่มนั้นบอกว่าพวกเขามีสัญชาติปารากวัย ทั้งที่ทั้ง 2 คนไม่ได้มีเชื้อชาติดังกล่าว โดยทั้งคู่อ้างว่าโดนหลอก และนึกว่าได้รับสัญชาติปารากวัยเป็นกรณีพิเศษ
อย่างไรก็ตามทั้งสองคนยังไม่ได้รับอิสรภาพแบบเต็มตัว เนื่องจากต้องถูกกักตัวอยู่ในโรงแรมปัลมาโรกา ในเมืองอาซุนซีออน เป็นการชั่วคราวเพื่อรอขึ้นศาลเพื่อตัดสินคดีในช่วงต้นสัปดาห์หน้า
เรื่องราวของ โรนัลดินโญ่ ถือเป็นข่าวดังไปทั่วโลก ซึ่งนอกจากเรื่องคดีความแล้ว เจ้าตัวยังสร้างชื่อด้วยการเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลในเรือนจำ ซึ่งแน่นอนเจ้าตัวก็ยังคงวาดลวดลายในสนามได้แจ่มเหมือนเคย ด้วยการขับเคลื่อนเกมได้เหนือกว่าบรรดาผู้เล่นทุกคนในสนาม ก่อนทำไป 5 ประตู 6 แอสซิสต์ ช่วยให้ทีมของตัวเองเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ขาดลอย 11-2